กรมการขนส่งทางบกได้ให้คำนิยมของรถบรรทุกไว้ว่า รถที่ใช้ในการขนส่งสัตว์หรือสิ่งของเพื่อค่าสินจ้างหรือเพื่อธุรกิจการค้าของตนเองโดยมีน้ำหนักรวมไม่เกิน 1600 กิโลกรัม ซึ่งได้กำหนดลักษณะการใช้รถในการขนสิ่งของหรือสัตว์ โดยแยกออกเป็น ทั้งหมด 9 ลักษณะดังนี้
รถประเภท 1 รถกระบะบรรทุก ซึ่งส่วนที่ใช้จะมีลักษณะเป็นกระบะ จะมีหลังคาหรือไม่มีก็ได้ หรือจะมีเครื่องทุ่นแรง ไว้เพื่อช่วยสำหรับยกสิ่งของได้ รวมถึงรถที่ใช้ในการบรรทุกไม่มีด้านข้างหรือด้านท้าย
รถลักษณะที่ 2 รถตู้บรรทุก โดยรถที่ใช้ในการบรรทุกจะมีลักษณะเป็นตู้ทึบ และมีหลังคาและตัวถังที่บรรทุกระหว่างผู้โดยสารและผู้ขับเป็นตอนเดียว โดยจะมีประตูบานใหญ่ไว้สำหรับให้ผู้โดยสารขึ้นลง หรือจะเลือกเปิดท้ายก็ได้
รถลักษณะที่ 3 รถบรรทุกของเหลว จะเป็นรถที่ใช้ในการบรรทุกของเหลวตามความเหมาะสมและจะต้องเป็นประเภทที่มีความปลอดภัย
รถลักษณะที่ 4 รถบรรทุกวัสดุอันตราย เป็นรถที่ใช้ในการบรรทุกเฉพาะเพื่อใช้ในการบรรทุกวัสดุอันตราย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง สารเคมี วัตถุระเบิด วัสดุไวไฟ ซึ่งจะมีลักษณะเฉพาะและมีป้ายเตือนอย่างชัดเจน
รถลักษณะที่ 5 รถบรรทุกเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นรถที่ใช้ในการบรรทุกที่มีลักษณะพิเศษ เพื่อใช้ในการเฉพาะ เช่น รถบรรทุกเครื่องดื่ม รถผสมซีเมนต์ รถขยะมูลฝอย รถราดยาง หรือรถเครื่องทุ่นแรงต่าง ๆ
รถลักษณะที่ 6 รถพ่วง จะเป็นรถที่ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง จึงต้องอาศัยรถอื่นลากจูงโดยจะมีโครงรถที่มีเพลาล้อที่สมบูรณ์ในตัวเอง
รถลักษณะที่ 7 รถกึ่งพ่วง รถที่ไม่มีแรงขับเคลื่อนในตัวเอง จึงต้องใช้หัวรถลาก โดยน้ำหนักของรถบางส่วนจะต้องเฉลี่ยลงบนเพลาล้อของคันลากจูง
รถลักษณะที่ 8 รถกึ่งพ่วงบรรทุกวัสดุยาง จะเป็นรถที่ไว้ใช้ในการขนสิ่งของที่ยาว โดยจะมีโครงโลหะที่สามารถปรับตัวได้ตามช่วงล้อลากจูง
รถลักษณะที่ 9 รถลากจูง จะเป็นรถที่เป็นลักษณะสำหรับใช้ลากรถพ่วง รถกึ่งพ่วง เพราะรถเหล่านั้นจะไม่สามารถที่ขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองจึงต้องอาศัยรถประเภทนี้ในการลากจูง
จะเห็นได้ว่าข้อกำหนดของรถลักษณะต่าง ๆ ที่หลายคนอาจจะเห็นเคยประเภทรถเหล่านี้กันมาแล้ว แต่อาจจะไม่ทราบถึงข้อกำหนดของหรือลักษณะของการใช้งาน เพราะว่าบางคนอาจจะใช้ผิดประเภท สำหรับรถบรรทุกที่ถูกต้องจะต้องเลือกใช้ให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด เพราะมีหลายคนที่นำรถมาดัดแปลงสภาพ ส่งผลให้เสี่ยงต่อการถูกจับ เพราะว่าคุณไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้องหรือได้รับอนุญาตอย่ารงถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อมีการร้องขอดูเอกสสารจากผู้ที่ใช้รถและไม่มีเอกสารยืนยันอย่างถูกต้อง โอกาสที่จะถูกปรับมีสูงมาก แต่ถ้าตัวคนขับและเจ้าของกิจการได้ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะกี่ด่านก็ย่อมมีความปลอดภัย รับรองว่าถึงอย่างไรก็ไม่ถูกจับหรือถูกปรับแน่นอน เมื่อเลือกใช้งานได้ถูกประเภท อย่างไรก็อุ่นใจมากกว่า ไม่ต้องหลบซ่อน ไม่ต้องเสี่ยงกับปัญหาเดิม ๆ อีกต่อไป
เครดิต: trucktire.in.th
#ปะยางรถบรรทุก #เปลี่ยนยางรถบรรทุก #ยางแตก #ยางรั่ว #ยางสึกหรอ #ปะยางด่วนนอกสถานที่ #ปะยาง24ชั่วโมง #ช่างปะยางรถ #ช่างปะยางนอกสถานที่
พื้นที่ให้บริการ : กรุงเทพฯ ปริมณฑล
『 บริการเปลี่ยนยางนอกสถานที่ ให้เราเข้าไปบริการเปลี่ยนยางถึงที่ 』
บริการ 24ชั่วโมง